รู้ธรรมะ...ผ่านความช้าและธรรมชาติ

ไร่ปลูกรัก – อัมพวา
24 – 25 ก.ค. 53

และแล้วกิจกรรมจับเด็กๆ มาลดความเร็วในการดำเนินชีวิต เพื่อสัมผัสธรรมชาติอย่างช้าๆ พร้อมๆ กับการไล่จับธรรมะก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีและสนุกสนานกันมากค่ะ แต่เอ...ธรรมะ ความช้า และ ธรรมชาติ สามสิ่งนี้เชื่อมโยงกันอย่างไร แล้วเด็กๆ รู้สึกสนุกตรงไหน ถ้าใครอยากรู้ก็ต้องตามมาค่ะ ;)

เช้าวันที่ 24 ก.ค. เรามีนัดกันที่ไร่ปลูกรัก เมื่อเด็กๆ จากโรงพยาบาลต่างๆ เดินทางมาถึง หลังจากลงทะเบียน รับถุงเสบียง รับประทานคุกกี้ดอกอัญชันและเครื่องดื่มสมุนไพรปลอดสารพิษต่างๆ ที่ทางไร่ปลูกรักได้เตรียมไว้ให้แล้ว เราก็มุดอุโมงค์ต้นไม้เพื่อเดินทางเข้าสู่กิจกรรมในวันนี้กันค่ะ

กิจกรรมในส่วนของไร่ปลูกรักนั้นประกอบไปด้วย 1. จับ-ดู-รู้-ปล่อย 2. การพับกระดาษ 3. การทำไข่เค็ม 4. การทำไอศกรีมและเครื่องดื่ม 4. การปลูกผักปลอดสารพิษ 5. เตรียมของตักบาตร โดยมีพี่ยุ่นเป็นวิทยากรนำกิจกรรมทั้งหมดในส่วนของไร่ปลูกรัก และพี่เตือนจะเป็นวิทยากรในส่วนของการเตรียมของตักบาตรค่ะ

เมื่อเสร็จจากกิจกรรมที่ไร่ปลูกรัก เราพาเด็กๆ เข้าพักที่พุทธรักษารีสอร์ท อัมพวาค่ะ จากนั้นจึงลงเรือไปทานข้าวที่ ณ ปลายโพงพาง รีสอร์ท ตามด้วยตลาดอัมพวา ระหว่างเดินทางกลับที่พักเด็กๆ ก็ได้ชมหิงห้อยบนต้นลำพู ซึ่งเป็นความงามที่ไม่สามารถบันทึกภาพไปฝากกันได้ ต้องมาชมด้วยตัวเองเท่านั้นค่ะ

เช้าแล้ว...เตรียมตักบาตรกันนะคะ เด็กๆ ตื่นเต้นกันมากที่มีพระพายเรือมาบิณฑบาต ต่างก็พากันนำของที่ได้จัดเตรียมไว้เมื่อวานมารอ วันนี้มีพระมา 2 รูปค่ะ หลวงตาใจดีมากๆ คอยแนะนำเด็กๆ ว่าต้องทำอะไรอย่างไร ขอบคุณหลวงตากับหลวงพี่มากนะคะ ที่รอจนเด็กๆ ทุกคนได้ใส่บาตรกันจนครบค่ะ

ใกล้จะปิดกิจกรรมค่ายธรรมะของเราแล้ว เด็กๆ รู้ไหมเอ่ยว่า มีธรรมะใดบ้างที่ซ่อนตัวอยู่ในกิจกรรมครั้งนี้ซึ่งก็แน่นอนค่ะเด็กๆ พากันตอบได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จึงเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่นะคะที่จะสอนให้เด็กๆ ได้รู้ถึงธรรมะง่ายๆ รอบตัว เริ่มกันที่กิจกรรมของไร่ปลูกรักก่อนเลยค่ะ

‘จับ-ดู-รู้-ปล่อย’ กิจกรรมนี้เป็นหลักธรรมง่ายๆ ของการไม่เบียดเบียนกัน อย่าเพิ่งด่วนตัดสินสิ่งใด จนกว่าเราจะได้รู้จักสิ่งนั้นค่ะ
‘กิจกรรมพับกระดาษ’ เป็นการสอนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ว่า ความสุขหรือความสนุกสามารถสร้างได้จากตัวเอง
‘การทำไข่เค็ม และ การทำไอศกรีม’ ชี้ให้เด็กๆ ได้เข้าใจถึงความสำคัญของการรอ เพราะทุกอย่างมีขั้นตอน รวมไปจนถึงการที่เราอยากได้รับสิ่งดีๆ จากใคร เราก็ควรมอบสิ่งดีๆ ให้กับเขาเช่นกัน
‘การปลูกผักปลอดสารพิษ’ เป็นกิจกรรมง่ายๆ ของการเริ่มสร้างสิ่งดีๆ ซึ่งเราสามารถเริ่มได้จากตัวเราเอง
‘การเตรียมของตักบาตร’ ทำให้เด็กๆ ได้รู้จักคิดและประเมินสิ่งที่จะทำก่อนลงมือทำ ให้รู้จักกับคำว่าความพอดี
‘การชมหิงห้อย’ ได้เรียนรู้ถึงการเคารพกฎกติการะหว่างกัน เพื่อการอยู่ร่วม

เห็นไหมคะว่าธรรมะนั้นอยู่ในชีวิตประจำวันของเราตลอดเวลาเลย เพียงแต่ว่าจะสอดแทรกมาในรูปแบบและหน้าตาที่ต่างกัน และก่อนที่จะไปทานอาหารที่ร้านเรือนวารีในตอนเที่ยง เราได้รับความอนุเคราะห์จากผู้ใหญ่ใจดีอีกหนึ่งท่านที่จะมามอบความสนุกให้กับเด็กๆ นั่นก็คือน้าแต้ว นักเล่านิทานคนเก่ง เด็กๆ สนุกกับกิจกรรมของน้าแต้วมาก ก่อนขึ้นรถไปทานอาหารเที่ยงก็ยังเห็นเด็กๆ นำของเล่นที่ได้จากกิจกรรมน้าแต้วมาเล่นกันอยู่เลยค่ะ

เมื่อเสร็จสิ้นมื้ออาหารเรากล่าวคำอำลาเด็กๆ กันที่ร้านอาหารเรือนวารี ขอให้เด็กๆ ทุกคนมีความสุขกับการไล่จับธรรมะในชีวิตประจำวันนะคะ ^ ^