สานฝันน้องโอม

“ผมขึ้นเครื่องบินไปดูหมีแพนด้า”

7 – 8 เมษายน 2553

เจ้าของความฝันครั้งนี้คือน้องโอม จากโรงพยาบาลขอนแก่น

น้องโอมได้เคยมาร่วมกิจกรรมของมูลนิธิฯ หลายครั้ง และในงานค่ายปีที่แล้ว เมื่อเดือนตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา ณ หาดตะวันรอน น้องโอมกับคุณแม่ก็ได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมด้วยเช่นกัน แม่น้องโอมคุยให้ฟังว่าน้องโอมอยากเห็นทะเล โชคดีที่คราวนี้งานค่ายเราจัดที่ทะเล น้องโอมเลยได้มาเห็นทะเลจริงๆ

ในราวปลายเดือนมกราคมทางมูลนิธิฯ ก็ได้รับแจ้งจากคุณหมอว่า น้องโอมมีการกลับมาของโรค อยากให้ทางมูลนิธิฯ ทำการสานฝันให้น้อง ซึ่งนั่นก็คือ การขึ้นเครื่องบินไปดูหมีแพนด้าที่เชียงใหม่

แม้จะได้รับแจ้งเรื่องการสานฝันของน้องตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินได้ เนื่องจากสุขภาพของน้องยังไม่เอื้ออำนวย จนต้นเดือนเมษายน คุณหมอได้แจ้งมาว่าน้องโอมพร้อมแล้วสำหรับการเดินทาง ทางมูลนิธิฯ จึงเริ่มดำเนินการทันที

โชคดีของน้องโอมที่สายการบินนกแอร์ โดย นกแอร์ มินิ ได้เปิดเที่ยวบินใหม่ ขอนแก่น-เชียงใหม่ จึงทำให้การสานฝันเป็นไปได้ง่ายขึ้น น้องโอมเล่าให้ฟังว่าน้องโอมชอบเครื่องบินมาก ตอนเด็กๆ ชอบวิ่งไล่ตามเครื่องบิน และร้องบอกให้เครื่องบินรอโอมด้วย โอมคิดอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งโอมจะต้องนั่งเครื่องบินให้ได้ และโอมก็อยากเห็นหมีแพนด้าแบบในทีวีมากด้วยเหมือนกัน

ก่อนวันเดินทาง ทางมูลนิธิฯ ได้ประสานงานผ่านอาสาสมัครเพื่อหาทางติดต่อกับนกแอร์ ในเรื่องการพาน้องโอมเที่ยวชมส่วนต่างๆ ของเครื่องบิน และในส่วนของการถ่ายรูปที่ระลึกกับเครื่องบิน เนื่องจากน้องโอมและคุณแม่ไม่มีกล้อง อาสาสมัครได้ช่วยกระจายข่าวผ่าน Twitter ส่วนตัว และทาง Email ซึ่งก็เป็นที่น่าดีใจมาก ที่เราสามารถหาผู้ประสานงานระหว่างนกแอร์และนกแอร์ มินิได้ และในวันที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ไปรับน้องโอมที่สนามบินเชียงใหม่ พบว่าน้องโอมกับคุณแม่เดินออกมาพร้อมกับอุ้มตุ๊กตาช้างสีชมพูมาด้วย 1 ตัว น้องโอมรีบโชว์ตุ๊กตาช้างและเล่าให้กับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้ฟังว่า ใครคือเจ้าของตุ๊กตาช้างตัวนี้

กำหนดการสานฝันของน้องโอม คือไปดูหมีแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ช่วงบ่าย และไปดูไนท์ ซาฟารีในช่วงค่ำ

น้องโอมมีกำหนดเดินทางกลับจังหวัดขอนแก่นวันรุ่งขึ้นไฟล์ทเช้า 9 โมง เนื่องจากมีบินระหว่างขอนแก่น-เชียงใหม่แค่วันละหนึ่งเท่านั้น เชิญชมภาพกิจกรรมกันเลยค่ะ